หลายคนคงเคยได้ยินประโยคยอดฮิต "It's a trap!" ที่พูดโดยพลเรือเอก Ackbar ในภาค 6 ซึ่งเป็นภาคที่เค้าได้รับเปิดตัวเป็นครั้งแรก
Ackbar ได้ทุ่มเทและเสียสละอะไรมากมายหลายอย่าง เพื่อร่วมต่อสู้ให้กับอิสรภาพและความยุติธรรมของกาแล็กซี่ตลอดมา จนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต...





























Ackbar แม่ทัพที่เก่งที่สุดของพันธมิตรกบฎ
Gial Ackbar หรือที่พวกเรารู้จักกันว่า Admiral Ackbar เป็นทหารผู้เปี่ยมล้นไปด้วยประสบการณ์ เป็นผู้นำนักปฏิวัติที่เข้มแข็ง มีความซื่อสัตย์ และมีวิศัยน์ทัศน์กว้างไกล
เค้าอาจมีบทบาทในภาพยนตร์น้อย แต่ทว่า Ackbar เป็นอีกบุคคลหนึ่ง ที่มีความสำคัญต่อทั้งสาธารณรัฐ ฝ่ายกบฏ สาธารณรัฐใหม่ และฝ่ายต่อต้านเป็นอย่างมาก
ตลอดการรับใช้กาแล็กซี่กว่า 60 ปี มาทั้งชีวิตของเค้า Ackbar ได้สร้างผลงานและพลิกโฉมสงครามมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
เค้าคือใคร วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Admiral Gial Ackbar กัน
Gial Ackbar เกิดบนดาวที่เต็มไปด้วยน้ำ ที่ชื่อว่า Mon Cala ประมาณ 50 BBY (ปีก่อนการต่อสู้ที่ดาว Yavin) ในช่วงท้ายของสาธารณรัฐ
ดาว Mon Cala อยู่ในปกครองของสาธารณรัฐ ซึ่งในตอนนั้นมี Palpatine เป็นผู้ปกครอง เค้าเริ่มเข้าสู่กองทัพด้วยการสมัครเป็นทหารองครักษ์พิทักษ์ราชวงศ์และขุนนางชั้นสูงทั้งหลายแห่ง Mon Cala เค้าปฏิบัติหน้าที่อย่างดี ความทุ่มเทและซื่อสัตย์ทำให้ไต่เต้าได้จนเป็นถึง Captain (นาวาเอก) และกลายเป็นที่ปรึกษาระดับสูงให้กับผู้นำแห่งท้องทะเล
หลังจากที่กษัตริย์ Yos Kolina ถูกลอบสังหาร Ackbar ก็ได้ย้ายมาเป็นองค์รักษ์พิทักษ์เจ้าชาย Lee-Char บุตรชายของ Kolina ผู้ซึ่งจะต้องสืบทอดบัลลังก์เป็นคนต่อไป
ซึ่งการตายของกษัตริย์ ได้นำสงครามโคลนเข้ามาสู่ Mon Cala ในช่วงนึงระหว่างสงคราม Ackbar ได้ยื่นปืนลาสเตอร์ให้เจ้าชาย Lee-Char พร้อมกับบอกว่า พระองค์ต้องนำทัพในแนวหน้า เพื่อสร้างความน่านับถือให้แก่ชาวเมือง
เจ้าชายยังหนุ่มมาก ขาดความรู้และอ่อนประสบการณ์ แม้ว่า Ackbar จะไม่เห็นด้วยที่จะให้เจ้าชายนำทัพ แต่เนื่องจากเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาอย่างยาวนาน ที่กษัตริย์ต้องอยู่แนวหน้าเพื่อนำกองทัพ ทำให้การยื่นบลาสเตอร์ครั้งนั้น แสดงให้เห็นถึงปัญญาและความมีวิศัยทัศน์ขององค์รักษ์หนุ่มคนนี้
หลังจบสงคราม Lee-Char ก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ พร้อมกับความเคารพของประชาชนชาว Mon Cala ต้องขอบคุณ Ackbar ที่คอยปกป้องและคอยช่วยเหลือมาโดยตลอด
1 ปี หลังจากที่ Palpatine สถาปนาจักรวรรดิขึ้น การรุกรานก็กลับมาถึง Mon Cala อีกครั้ง ตอนนี้ Ackbar ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น Commander (ผู้บัญชาการกองเรือ) และได้ย้ายมา ประจำตำแหน่งองค์รักษ์พิทักษ์กษัตริย์เพียงองค์เดียว และในสงครามนี้เค้าก็ได้มีบทบาท
สำคัญมากพอๆ กับยานของเค้าในอนาคต
จักรวรรดิได้ส่งอัครราชทูตไปเจรจาเพื่อขอให้ส่งทรัพยากรให้จักรวรรดิแบบไม่มีเงื่อนไข หมายความว่าจักรวรรดิ สามารถเอาทุกอย่างไปได้ทั้งหมด การเจรจาดำเนินไปอย่างเรียบร้อย แต่ทว่า มันไม่ได้จบลงสวยอย่างนั้น Tarkin ได้ส่งกองทัพลงมาหลังรู้ว่า ยานของอัครราชทูตถูกทำลายอย่างลึกลับ
Ackbar นำทัพอยู่แนวหน้าด้วยตนเองเพื่อซุ่มโจมตีฐานลอยฟ้าของจักรวรดิ การรุกรานจบลงเมื่อกษัตริย์ Lee-Char ถูกจบกุม แต่ Tarkin ก็ยังคงสั่งถล่ม Mon Cala ด้วย Star Destroyer จนเสียหายอย่างหนักต่อไป
Ackbar ได้รับคำสั่งจาก Admiral (พลเรือกเอก) ของเค้าว่าให้ปล่อยยาน Mon Calamari Cruiser ซึ่งเป็นยานท่องอวกาศ ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำสงคราม ออกสู่อวกาศเพื่ออพยพคนออก ดีกว่ารอความตายอยู่ที่ใต้บาดาล
แม้ยานจะไม่มีอาวุธ แต่เกราะของมันสามารถทนต่อการเดินทางในอวกาศลึกด้วย Hyperspace ได้สบาย อย่างไรก็ตาม มันไม่สามารถรับมือการโจมตีของกองยาน Star Destroyer ได้ จึงรอดออกไปได้เพียง 3 ลำ ซึ่งยานเหล่านี้ จะกลายเป็นยานที่จะกอบกู้กาแล็กซี่ในอนาคต หนึ่งในนั้นคือยาน Home One
หลังการต่อสู้ที่ดาว Yavin (ในภาค 4) Ackbar ได้คอยสนับสนุนและช่วยเหลือ ทั้งด้านทหาร และด้านเสบียงให้กับฝ่ายกบฎเพื่อลำเลียงคนอพยพจากการไล่ล่าของจักรวรรดิหลายครั้ง
อย่างที่เราเห็นในภาค 6 Ackbar ได้รับการแต่งตั้งเป็น Admiral ของกองยานกบฎ เค้าช่วยวางแผนโจมตีดาว Death Star II โดยให้ นายพล Han ไปที่ผิวดวงจันทร์ Endor เพื่อปิดเกราะ และให้ Lando เป็นคนบุกทำลาย Death Star II
เมื่อกองยานไปถึง เค้าพบว่าเกราะยังปิดอยู่ สัญญาณถูกรบกวน และกองทัพจักรวรรดิก็ปิดล้อมทางหนีไว้หมด Ackbar จึงรู้ทันทีว่านี่เป็นกับดัก เค้าเกือบจะสั่งถอยทัพแต่ Lando ขอให้เค้าให้เวลาทีมของ Han อีกหน่อย เพื่อปิดเกราะให้สำเร็จ
เมื่อ Han ปิดเกราะได้ Ackbar ก็ตรึงกำลังล่อจักรวรรดิไว้ เพื่อให้ Lando บินเข้าไประเบิดสถานียักษ์ที่ยังสร้างไม่เสร็จจากข้างใน ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของจักรวรรดิ เพราะนอกจาก Death Star II จะถูกทำลายแล้ว จักรพรรดิ Palpatine และ Lord Vader ก็ถูกจบชีวิตในสงครามในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
หลังการต่อสู้ที่ดาว Endor สาธารณรัฐใหม่ก็ถูกสถาปนาขึ้นโดยฝ่ายกบฎ พลเรือเอก Ackbar ก็ยังคงร่วมไล่กำจัดพวกจักรวรรดิที่เหลือ ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดีอย่างต่อเนื่องเช่นเคย
Ackbar มักจะฝึกฝน Kotas ศิลปะป้องกันตัวบ้านเกิดด้วย Kar-shaks (อาวุธตะขอที่อีกด้านนึงเป็นตาข่าย) กับ ทหาร Stormtrooper ใน Hologram ในเวลาว่าง ขณะฝึก เค้าแทงตะขอใส่หัวของทหารนายแรก และจับทหารนายที่สองด้วยตาข่าย ขว้างเข้าใส่ทหารนายที่สาม คว่ำทหารทั้งสามนายอย่างราบคาบ การฝึก Kotas ช่วยให้ Ackbar คงความหลักแหลมทางปัญญา และรักษาความยืดหยุ่นของร่างกายไว้เสมอ
1 ปีหลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่ดวงจันทร์ Endor Ackbar ก็นำทัพบุกจู่โจมอาวุธสำคัญอีกชิ้นที่ยังเหลือ ซึ่งจำเป็นต่อจักรวรรดิมาก นั่นคือ Kuat Drive Yards โรงงานผลิตยานรบอวกาศ เรียกว่าโรงงานอาจไม่เหมาะนัก เพราะมันเป็นโรงงานขนาดมหึมา ที่เรียงแถวเป็นแนววงโคจรอยู่รอบดาว Kuat
การรบกินเวลาหลายเดือน แต่ด้วยจำนวนที่น้อยกว่า
และการสูญเสียอย่างหนัก ทำให้ฝ่ายจักรวรรดิ
ยอมแพ้ในสงครามครั้งนั้นไปในที่สุด การจัดการแหล่งผลิตยานของจักรวรรดินั้น ช่วยประกันความมั่นคงให้กับสาธารณรัฐใหม่ และกาแล็กซี่ได้เยอะขึ้นมากทีเดียว
หลังจากที่จักรวรรดิไม่สามารถผลิตยานรบได้อีก ทำให้จักรวรรดิอ่อนกำลังลงมาก และรีบดำเนินแผนของ Palpatine ที่วางไว้ก่อนตาย (อ่านได้ที่ลิงค์ด้านล่าง) และเรียกรวมพลที่ดาว Jakku เพื่อล่อให้สาธารณรัฐใหม่ตรวจพบ และมาถึง
หลายเดือนต่อมา สาธารณรัฐใหม่ก็ได้รับรายงานเกี่ยวกับรวมพลของจักรวรรดิ Ackbar จึงส่งหุ่นดรอยด์สอบสวนไปสืบดู และได้รับการยืนยันว่ามีกองยานของจักรวรรดิอยู่ที่ Jakku จริงๆ สมุหนายก Mon Mothma จึงได้เรียกประชุมสภาด่วน เพื่อทำการโหวตอนุมัติการส่งกองกำลังบุก แต่ก็แพ้ไป 5 เสียง
หลังมีการเจรจา และโน้มน้าวให้สภาเปลี่ยนใจ คำสั่งการดจมตีก็ได้รับการอนุมัติ พลเรือเอก Ackbar ได้รวบรวมกองกำลัง และขอให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเตรียมพร้อมกับสงครามเต็มอัตราศึกที่ใหญ่ที่สุดครั้งนึงของกาแล็กซี่
กองยานของ Ackbar ซึ่งมีมากกว่า ได้โอบล้อมรูปทัพของจักรวรรดิ ซึ่งบัญชาการโดย Gallius Rax แต่ก็ไม่สามารถฝ่าวงล้อมของ Star Destroyer ไปโจมตี Ravenger (ยานนำทัพ Super Star Destroyer Dreadnought) ของ Rax ได้
รูปทัพของ Rax มี Star Destroyer ล้อมรอบ Ravenger ไว้ และจะเปิดช่องเพื่อยิงใส่ยานของสาธารณรัฐใหม่ลงทีละลำ ระหว่างนั้น Ackbar ได้สั่งให้ นายพล Tyben ซึ่งคุ้มกันอยู่ที่ดาว Chandrila ซึ่งตอนนี้เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐใหม่แทน Coruscant และยังเป็นบ้านเกิดของ Ben Solo ให้คอยคุ้มกันเมืองหลวงไว้เผื่อว่าการรบที่ Jakku จะเป็นกับดัก
การรบกินเวลานานขึ้นเรื่อยๆ และจู่ๆ Ackbar ก็สังเกตุเห็นยาน Star Destroyer ลำนึงของจักรวรรดิ ที่ชื่อว่า Punishment ได้แล่นออกจากแถว แล้วพุ่งชนเข้ากับ Amity ยาน Starhawk ของสาธารณรัฐใหม่ ทำลายยานทั้งสองลำไปต่อหน้าต่อตา
Ackbar พบว่ายาน Starhawk อีกลำ ที่ชื่อ Concord นั้นอยู่ตรงกับช่องว่างของการแตกทัพของ Punishment พอดี ซึ่งกำลังได้รับอันตรายเพราะอยู่ในวิถียิงของ Ravenger เค้าจึงรีบแจ้งผู้บังคับการ Agate ผู้ซึ่ง Ackbar ได้ร้องของเป็นการส่วนตัวให้บัญชาการยาน Concord ไว้ก่อนหน้านี้ ว่าให้ทำการสละยานทันที
เธอสั่งลูกเรือทั้งหมดให้อพยพทันที แต่ตัวเธอเองและลูกเรือบางส่วนอยู่คุมยานต่อ และบอก Ackbar ว่าช่องว่างนั้นจะเปิดโอกาสให้เราโจมตี Ravenger ได้ แต่ Ackbar ยืนกรานให้เธอสละยานทันที Agate ไม่ยอม และยังขอให้ Ackbar ช่วยส่งยาน Fighter ไปทำลายชุดขับเคลื่อนของ Ravenger ให้อีกด้วย
หลังการโต้แย้งกันซักพักนึง ด้วยเหตุผลบางอย่าง Ackbar ก็ยอมรับการเสียสละ และแผนของ Agate พร้อมกับอวยพรให้พลังจงสถิตอยู่กับพวกเธอทุกคน Concord เข้าแลกหมัดกับ Ravenger และเสียการควบคุม ตกลงอย่างรวดเร็ว สู่ชั้นบรรยากาศของ Jakku
ยาน Starhawk เป็นยานที่สร้างจาก Star Destroyer ที่โขมยมาจากจักรวรรดิ นำมาแยกชิ้น แล้วประกอบขึ้นใหม่ มันถูกใส่เทคโนโลยีและอาวุธใหม่ๆ เข้าไปมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Tractor Beam พลังดูดแรงสูง เธอเปิดมันเพื่อดูด Ravenger ลงไปด้วย เมื่อไม่มีเครื่องยนต์ Ravenger ก็ไม่ต่างอะไรกับก้อนเหล็กทื่อๆ ที่กำลังถูกลากให้จมลงสู่พื้นผิวของดาว Jakku
ขณะที่ยานทั้งสองลำค่อยๆ เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ และเริ่มจะลุกไหม้ Ackbar รีบคว้าวิทยุสื่อสาร และประกาศว่า "ทหารและนักบินของสาธารณรัฐใหม่ทุกคน นี่คือพลเรือเอก Ackbar ยาน Ravenger Dreadnought ร่วงแล้ว! มันกำลังตกลงสู่ดาว Jakku โปรดระวังเศษสะเก็ดจากยานตก และหาที่กำบัง!"
ขณะที่ลูกเรือคนอื่นๆ กำลังเชียร์กันเสียงดังลั่น Ackbar กลับนิ่งเฉย ไม่แสดงกริยาใดๆ และสวดภาวนาให้พลังปกป้องผู้คนข้างล่าง พร้อมกับยอมรับ Agate ในฐานะพวกเดียวกันกับเค้า
หลังจากการรบที่ Jakku จบลงไม่นาน สงครามกาแล็กติกที่กินเวลาถึง 5 ปี ก็สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ Ackbar เกษียณตัวเอง และกลับไปอยู่ที่บ้านเกิด Mon Cala แต่ก็ไม่นานหลังจากที่ Leia ผู้ที่ตอนนี้ไม่ได้รับการนับถือเช่นแต่ก่อน เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ Darth Vader ถูกเปิดเผย ได้ร้องขอให้ Ackbar กลับมาประชุมและร่วมจัดตั้งกองกำลังฝ่ายต่อต้าน เพื่อปกป้องสาธารณรัฐใหม่จากปฐมภาคี
ในช่วงนึงของการเรียกรวมพล Ackbar ถูกปฐมภาคีจับตัวไป แต่ถูกช่วยกลับมาได้ และได้ร่วมกับ Leai ในการทำลายดาว Star Killer Base ในภาค 7 หลังจากทำลาย Star Killer Base ได้ Ackbar ก็ช่วยพาทหารฝ่ายต่อต้านอพยพจากฐาน และกระโดดเข้าความเร็วแสง แต่ถูกปฐมภาคีดักทาง และติดตามไปได้
Kylo Ren พร้อมกับ TIE Fighter อีก 2 ลำ ได้ยิงจรวดเข้าใส่สะพานยานของ Ackbar เมื่อเค้าเห็นขีปนาวุธมุ่งหน้าเข้ามา เค้าก็รู้ได้ทันทีว่าชะตาของเค้าได้หมดแล้ว Ackbar หันมาหาลูกเรือ และพูดว่า "เป็นเกียรติที่ได้รบกับพวกท่านทุกคน"
สะพานยานระเบิดออก และพลเรือเอก Gial Ackbar ผู้นำทัพที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในยุคจากคนของเค้า ก็ได้จากไปตลอดกาลอย่างไม่น่าเชื่อ และน่าสลดใจอย่างยิ่ง
เพื่อนๆ คิดอย่างไรหลังจากได้อ่านเรื่องราวของพลเรือเอก Ackbar เราจะมีโอกาสได้เห็นเค้าอีกซักครั้งหรือไม่ Comment ให้เราและเพื่อนๆ รู้ และอย่าลืม หากคุณต้องการอ่านเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับ Star Wars อย่าลังเลที่จะขอมาได้ทันที ขอบคุณที่ติดตาม Me Hope แล้วพบกันตอนต่อไป ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน