
Yoda ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่แฟนๆ Star Wars ต่างรู้จักและชื่นชอบเป็นอย่างมาก ซึ่งคุณรู้ไหมว่าจริงๆ แล้ว Yoda มีอีกชื่อหนึ่งอยู่ โดยคำว่า Yoda เป็นชื่อที่ถูกสร้างขึ้นมาเองโดย George Lucas ไม่มีความหมายใดๆ ซึ่งก็เหมือนกับตัวโยดาเอง ที่เป็นตัวละครจากกาแล็กซี่ที่ห่างไกล มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และประวัติรวมถึงสายพันธุ์ของเขาก็ไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหน ประวัติของ "Yoda" ตามบทภาพยนตร์Yoda ถูกรู้จักครั้งแรกใน Star Wars ภาค The Empire Strikes Back เมื่อ Luke Skywalker ได้พบกับ Yoda บนดาว Dagobah เพราะ Force-sensitive ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ Luke ต้องการหาเส้นทางของตนเองพอดี และแน่นอนว่า Yoda เป็นอาจารย์เจไดที่เขากำลังตามหาอยู่ แต่ Yoda ก็ไม่เคยเปิดเผยความจริงแต่อย่างใด จนกระทั่ง Luke นั้นพร้อมจริงๆ Yoda เป็นคนบอก Luke ว่าเข้าจะไม่สามารถเป็นเจไดได้ ถ้าเขาไม่เผชิญหน้ากับ Darth Vader และก่อนที่ Yoda จะเป็นหนึ่งเดียวกับ Force เขาก็คือคนที่ยืนยันว่า Darth Vader นั้นคือพ่อของ Luke จริงๆ
ซึ่งก่อนที่ Yoda จะได้มาพบกับ Luke บนดาว Dagobah เขาเป็นหนึ่งใน Jedi High Council และเป็นคนที่ทักท้วงการฝึกสอน Anakin Skywalker ให้เป็นเจได เพราะถูกมองว่า Anakin นั่นคือ Chosen One ต่อมาเขาก็ต้องต่อสู้กับเหล่า Sith และอดีตลูกศิษย์อย่าง Count Dooku นอกจากนี้ Yoda ยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่อยู่เห็นการล่มสลายของ Galactic Republic อีกด้วย
ชื่อเดิมของ Yoda คือ BuffyYoda เป็นตัวละครที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นผู้อาวุโสที่ฉลาดในจักรวาลของ Star Wars ซึ่งในภาค Empire Strikes Back ถูกสร้างเป็นหุ่นเชิด ซึ่งก็ได้ Frank Oz มาควบคุมตัวละครตัวนี้จนสำเร็จไปได้ด้วยดี และด้วยรูปร่างที่เหมือนกบของ Yoda นั่นทำให้เขาถูกเรียกว่า "Buffy" โดย Lucas ซึ่งต่อมา Lucas ได้เริ่มเขียนบทภาคต่อของ Star Wars จึงได้จ้าง Leigh Brackett มาเป็นนักเขียนบทภาพยนตร์ให้ ซึ่งเธอก็ได้เปลี่ยนชื่อจาก Buffy ไปเป็น "Minch Yoda" แทน เนื่องจากเธอรู้สึกว่ามันเหมาะกับความคิดของตัวละคร จากนั้นเธอก็ตัด Minch ออก และให้เหลือเพียง "Yoda" เท่านั้น น่าเสียดายที่ Brackett ถึงแก่กรรมในปี 1978 ก่อนภาพยนตร์จะถูกสร้าง ทาง Lucas จึงเข้ามาจัดการตัวบทต่อแทน
"ถ้าพูดถึง Buffy เราก็คงไม่คิดว่าเป็น Yoda แต่ถ้าพูดถึง Minch เชื่อว่าใครหลายๆ คนน่าจะรู้จัก เพราะเป็นชื่อทีถูกมาใช้เรียกหนึ่งในตัวละครสายพันธุ์เดียวกับ Yoda ซึ่งถูกนำเสนอในหนังสือการ์ตูน Heart of Darkness"
แหล่งที่มา screenrant.com