Hope Lore - Issue 19: Sheeve Palpatine จักรพรรดิองค์แรกของกาแล็กซี่

5 ปีที่ผ่านมา
โดย เจ้าของร้าน

หนึ่งใน Sith Lord ที่ทรงพลังที่สุดตลอดกาล คงหนีไม่พ้น Darth Sidious ความสัมพันธ์ระหว่าง Sidious กับด้านมืดนั้น ถึงจุดที่เรียกว่าด้านมืด เป็นสมบัติของเค้า และตัวเค้าเอง ก็เป็นสมบัติของด้านมืด

ว่าแต่ ชีวิตในวัยเด็กของ Palpatine เป็นอย่างไรบ้าง ทำไมเค้าถึงกลายเป็น Sith Lord ที่ทรงพลัง ผู้สามารถบรรลุแผน The Grand Plan ที่วางมานับพันปีได้สำเร็จ...
Sheeve Palpatine จักรพรรดิองค์แรกของกาแล็กซี่
Sheeve Palpatine เกิดในครอบครัวที่มีฐานะและมีหน้ามีตา ในช่วงประมาณ 60 ปี ก่อนสงครามโคลน เค้ามีความทะเยอทะยาน และกระหายในอำนาจตั้งแต่เด็ก มองว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่น ส่วนพ่อของเค้าก็มองว่า Palpatine มีอาการของคนโรคจิต แล้วก็เริ่มกลัวลูกของตัวเองตั้งแต่อายุเพียงไม่กี่ขวบ

พ่อของเค้าถึงขั้นเคยส่ง Palpatine ไปตรวจว่าใช่ลูกชายของตัวเองจริงๆ หรือไม่ ผลคือเป็น Palpatine นั้นเกลียดครอบครัวของตัวเองมาก เค้าแทบไม่มีความห่วงใยหรือเอาใจใส่ครอบครัวของตัวเองเลย

Palpatine อยากให้ครอบครัวมีบทบาทในการเมือง Naboo มากกว่านี้ และนำพาดาวเกิดไปสู่จุดที่ทันสมัยมากขึ้น แต่พ่อกลับมองว่า ตอนนี้เราทำได้ดีที่สุดแล้ว และพอใจกับสิ่งที่ตนทำได้ เค้าจึงมองว่าพ่อนั้นอ่อนแอ โง่เขลา และมีวิสัยทัศน์ที่คับแคบ

แม่ก็ไร้ความคิดและอ่อนแอ เป็นแค่คนรับใช้ของพ่อซึ่งไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอะไรของตัวเอง ส่วนน้องชายและน้องสาวอีกสี่คน ก็เป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้น ซึ่งซึมซับวิสัยทัศน์แคบๆ มาจากพ่อของพวกเค้า

Palpatine ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ แม้ว่าจะได้เรียนในโรงเรียนหรูชื่อดังหลายแห่ง แต่ก็ถูกไล่ออกทุกครั้ง เนื่องจากพฤติกรรมที่สุดโต่งและย่ำแย่ของเค้า Palpatine ไม่เคยสำนึกผิด หรือตระหนักถึงผลที่ตามมาจากการกระทำของตัวเองเลยแม้แต่น้อย และพ่อของเค้าก็มักจะใช้เงินช่วยให้ลูกพ้นผิดทุกครั้ง ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน

ช่วงในวัยเด็ก Palpatine ชอบการแข่ง Speeder มาก ถึงขั้นฝันว่าจะได้เป็นนักแข่งยานอาชีพ การแข่งยานนี้

ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเค้ากับพ่อ แต่ก็เชื่อมไวได้ไม่นาน เมื่อ Palpatine ขับยานไปชนคนเดินเท้า ตายอย่างอนาถ 2 คน ทำให้พ่อต้องบากหน้าไปจ่ายส่วยเพื่อให้ลูกชายไม่ติดคุก แต่นั่นทำให้ Palpatine ทวีความไร้ความรับผิดชอบมากขึ้นไปอีก

ช่วงหลังๆ ของวัยเด็ก Palpatine เริ่มแอบเอาทรัพย์สินของครอบครัว ไปแลกซื้อหนังสือ Text Book ต้องห้ามโบราณจากตลาดมืด เพื่อศึกษาวิชาของซิธ และเรียนรู้กับมันอย่างหมกมุ่น เชื่อว่านี่คือวิถีแห่งพลังอำนาจที่แท้จริงเค้ามองหา

ย่างเข้าวัยรุ่น Palpatine ก็เริ่มศึกษาเกี่ยวกับการเมือง และด้วยแรงผลักดันที่จะเปลี่ยน Naboo ให้เป็นดาวที่ทรงอิทธพลและมีอำนาจที่สุดในกาแล็กซี่ ทำให้เค้าได้สร้างความสนใจให้กับเศรษฐีคนนึง นามว่า Hego Damask

Palpatine ได้เจอกับ Hego Damask ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท Damask Holdings บริษัทการเงินที่ลึกลับ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ InterGalactic Banking Clan (เปรียบเทียบเหมือนธนาคารกลางของโลก) 

พวกเค้าทั้ง 2 เริ่มแบ่งปันความเห็นเกี่ยวกับการเมือง และช่วยกันผลักดันการเลือกตั้ง ที่ช่วยให้ Bon Tapalo ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่ง Naboo เพื่อทำให้ Naboo เป็นดาวที่เปิด (เหมือนเปิดประเทศ) สู่อารยธรรม เทคโนโลยี การค้า และราชการต่างๆ กับสาธารณรัฐ

แต่เมื่อพ่อของ Palpatine รู้เข้า ก็ได้พยายามหยุดการติดต่อระหว่าง Damask กับลูกของตน เค้าพา Palpatine และครอบครัวขึ้นยานยอร์ช และบอกกับ Palpatine ว่าจะพาไปไปเรียนต่อที่ดาวอื่น เพื่อจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

นั่นทำให้ Palpatine โกรธมากและสติแตก เค้าเริ่มตะโกนด่าพ่อของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งนำไปสู่การทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือ จากความเกลียดชังที่ต่างคนก็ต่างเก็บไว้ ได้ระเบิดออกมาวันนี้ และพ่อของเค้าหลุดปากออกมาว่า เคยคิดอยากจะฆ่าตนมาตลอด ในสมัยตอนที่ Palpatine เป็นเด็ก

นั่นเป็นเหมือนจุดสิ้นสุดของขอบเหว เหมือนประกายไฟที่ได้จุดขึ้นในใจของ Palpatine มันระเบิดและลุกลามออกไปด้วยเชื้อเพลิงแห่งโทสะและความเกลียดชังที่สะสมไว้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา Palpatine ได้ดึงพลังด้านมืดทั้งหมดที่ได้เรียนรู้ไว้ แล้วใช้มันฆ่าพ่อและครอบครัว รวมทั้งบอดี้การ์ดบนยานหมดทุกคนอย่างเลือดเย็น โดยที่ไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย

หลังจากที่ทุกคนตายหมด Palpatine ก็ได้ติดต่อไปหา Damask ทันที เค้าเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่ง Damask ก็รับฟัง และตอบกลับมาว่าจะช่วยจัดการเรื่องหลักฐานการฆ่าให้ จะไม่มีเบาะแสใดหลงเหลือให้สาวถึงตัว Palpatine ได้

หลังจากเกตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ Damask เห็นว่า Palpatine นั้นคู่ควรที่จะได้รู้ความลับของตน จึงได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง Hego Damask ได้เปิดเผยว่า ตัวเค้าก็คือ Darth Plagueis ซิธลอร์ดผู้รอบรู้เรื่องพลังนั่นเอง Plagueis รับ Palpatine มาเป็นศิษย์ และนั่นก็คือจุดกำเนิดของ Darth Sidious

Sidious ซ่อนตัวตนของตัวเองไว้ในคราบของ Palpatine ต่อไป ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน Bon Tapalo ก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ได้สำเร็จ และเริ่มขายอาวุธเช่น ลูกระเบิด Plasma ให้กับ Trade Federation (สภาการค้า) 

ตามกฎหมายของดาว Naboo ผู้ที่มีอายุระหว่าง 12-20 ปี ต้องเข้ารับราชการ ซึ่ง Palpatine ก็รับราชการและอยู่ต่อหลังจากอายุ 20 จนเข้าสู่การเมืองอย่างเต็มตัว แต่ก็หลีกเลี่ยงการสร้างจุดสนใจใดๆ เพื่อที่จะได้ปลีกตัวไปฝึกวิชาซิธกับ Plagueis ในดาวที่ห่างไกลได้ ทั้งสองคนไม่ต้องการให้มีใครเห็นว่าทั้งคู่นั้นสุงสิงกันในโลกของการเมือง

ทั้งคู่ช่วยกัน พยายามไขความลับของชีวิตที่เป็นอมตะ เพื่อจะได้สานต่อแผนการที่วางมานับพันปี แผนที่จะทำให้นิกายซิธแทรกซึมเข้าไปปกครองกาแล็กซี่แทนที่สาธารณรัฐ The Grand Plan ซึ่งคิดไว้โดย Darth Bane เมื่อหนึ่งพันปีที่แล้ว

ระหว่างการฝึกกับ Plagueis Sidious แอบรับทารกชาว Zabrak มาฝึกให้เป็นซิธ ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่เคยเป็นทหารรับจ้างผู้กล้าหาญของซิธในสมัยโบราณ ก่อนนิกายซิธจะล่มสลายไป แต่แม้ว่านิกายซิธจล่มสลายไปแล้ว แต่นิกายซิธก็ยังคงมีอิทธิพลกับวัฒนธรรมของชาว Zabrak อยู่ถึงปัจจุบัน ทารกน้อยชาว Zabrak คนนั้นก็คือ  Darth Maul นั่นเอง

Plagueis รู้อยู่แล้วว่าวันนึง Sidious ต้องฆ่าตนเพื่อให้เป็นไปตามกฏของ Darth Bane นั่นคือกฏ The Rule of Two กฏมีอยู่ว่า ซิธจะมีได้แค่ 2 คน หนึ่งอาจารย์ และหนึ่งศิษย์ จะมีมากกว่านั้นไม่ได้ หากศิษย์แกร่งพอจะเลื่อนเป็นอาจารย์ ก็ต้องฆ่าอาจารย์ตัวเองให้ได้ แล้วฝึกศิษย์ที่คู่ควรคนต่อไปขึ้นมาแทน

เนื่องจากการล่มสลายของซิธเมื่อพันปีก่อน ทำให้ Darth Bane หนึ่งในผู้อยู่รอดจากการกวาดล้างของเจได ได้สร้างกฏนี้ขึ้น เพื่อต้องการจะหลบซ่อนตัวจากพวกเจได ทำให้ซิธกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง และส่งต่อความแข็งแกร่งจากรู่นสู่รุ่นเรื่อยๆ เค้าเชื่อว่าซิธในตอนนั้น
อ่อนแอและไม่เก่งพออีกต่อไปแล้ว 

เมื่อถึงเวลาที่ซิธกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ก็จะสามารถบรรลุแผน  The Grand Plan ได้ มันคือแผนการอย่างละเอียดในการโค่นล้มเจได และยึดครองสาธารณรัฐ เพื่อให้ซิธได้กลับมาปกครองกาแล็กซี่ได้สำเร็จอีกครั้ง (ซึ่ง Sidious ทำมันได้สำเร็จ แม้จะอยู่ได้เพียงไม่กี่ปี) 

แต่ Sidious ไม่เชื่ออย่างนั้น  เค้ากลับเชื่อในกฏ The Rule of One ซึ่งมีอยู่ว่า ซิธ จะมีอยู่ได้โดยเป็นซิธลอร์ดผู้มีอำนาจสูงสุดอย่างเบ็ดเสร็จแต่เพียงผู้เดียว ตัวเค้าเอง คนที่จะอยู่ตลอดไป และปกครองกาแล็กซี่นี้ในฐานะองค์จักรพรรดิ จะไม่มีการฝึกใครมาแทนที่

มีก็แต่ฝึกมือสังหารที่อาจเป็นผู้ที่มีพลัง เรียนรู้วิชาผิวๆ เพื่อหลอกใช้เป็นเครื่องมือเท่านั้น ซึ่งกฏนี้ทำให้ศิษย์ ไม่มีทางที่จะ ประสบความสำเร็จ และเราก็ได้เห็นผลของการแหกกฏ มันทำให้ศิษย์ของเค้าล้มเหลวในฐานะซิธ Vader ฆ่าอาจารย์ตัวเองในฐานะของเจได้ที่กลับสู่ด้านสว่าง เพื่อช่วยลูกชายตัวเอง ไม่ใช่เพื่อจะมาแทนที่ตน

Sidious พยายามฆ่าอาจารย์ตัวเองครั้งแรกในช่วง 33 BBY (ปีก่อนการต่อสู่ที่ดาว Yavin) เค้าได้ติดต่อไปหาพระราชา Veruna กษัตริย์ของ Naboo ในขณะนั้น ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เกลียด Plagueis อยู่แล้ว เค้าขอให้โจมตีดวงจันทร์ Sojourn ด้วยระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นที่กบดานของ Plagueis 

Palpatine ได้ช่วยสร้างหลักฐานปลอมว่าเป็นฝึมือของ Darth Maul ด้วยอาวุธโบราณจากดาวเกิดของเค้า ดวงจันทร์ถูกยิงเละ แต่พวก Hutt ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีกับ Plagueis ได้เตือนให้ Plagueis หนีออกมาได้ก่อนที่การโจมตีจะเริ่ม

หลังจากนั้น 1 ปี เมื่อ Sidious ใช้เส้นสายของ Plagueis เพื่อทำให้มั่นใจว่า ตัวเองจะได้รับเลือกเป็น Supreme Chancellor (ตำแหน่งสูงสุดในการเมืองสาธารณรัฐ) แล้ว มันก็ถึงเวลา ที่จะกำจัดอาจารย์ของตัวเองให้สำเร็จซักที Palpatine จัดงานเลี้ยงฉลองแบบเล็กๆ ที่เพนท์เฮาส์ของ Plagueis และแอบใส่ยานอนหลับในเครื่องดื่มของเค้า

เมื่ออาจารย์ของเค้าหลับไป Sidious ก็ได้โอกาส เค้าอาศัยจังหวะนี้เล่นงานอาจารย์ Plagueis ด้วย Force Lightning จนหน้ากากช่วยหายใจหลุดกระเด็นออก Plagueis ตื่นขึ้นอย่างสะลึมสะลือ เค้าไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เพราะเมายานอนหลับและกำลังอ่อนแอจากอาการเจ็บป่วย

Palpatine หยุดดู และเริ่มพูดจาดูถูกอาจารย์ของตัวเอง พร้อมกับด่าว่าที่ผ่านมากนั้น เค้าแค่ใช้ Plagueis เป็นเครื่องมือ และความโง่เขลาที่สุดของ Plagueis ก็คือวันที่รับตนเข้าเป็นศิษย์

Sidious อัดไฟใส่อาจารย์ของตัวเองซ้ำเต็มที่อย่างสะใจ จนในที่สุด Plagueis ก็ยอมแพ้ต่อความตาย และ Sidious ก็ได้เป็นศูนย์กลางอำนาจอย่างเต็มตัว เพราะว่าก่อนหน้านี้ ทั้งคู่วางแผนว่าจะให้ Sidious ควบคุมกาแล็กซี่โดยมี Plagueis เป็นเงามืดบงการอยู่เบื้องหลัง แต่นั่นไม่เคยอยู่ในหัวของ Sidious

ระหว่างที่กำลังยินดีกับการตายของอดีตอาจารย์ Sidious ก็สัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง ที่ทรงพลังมากกว่าตัวเค้าเอง บางสิ่งที่บดบังชัยชนะของเค้าไว้ Sidious คิดว่ามันอาจเป็นพลังของ Plagueis หลังความตายที่ตามมารังควาญเค้า หรือเป็นแค่อาการช็อคหลังเหตุการณ์เท่านั้น แต่ยังไงซะ  Sidious ก็ไม่ได้สนใจหรือพยายามหาสาเหตุของมัน เหตุการณ์นี้อยู่ในช่วงเวลาของภาค 2 นั่นเอง

พูดถึงพลังของ Sidious แล้ว พลังของเค้าถือว่าทรงพลังมากที่สุดในยุด เค้าสามารถบล็อคการอ่านจิตใจของ Plagueis ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน และฆ่าครอบครัวบนยอร์ชได้ด้วยพลัง Telekinesis (เคลื่อนย้ายสิ่งของ) โดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามเลย และตอนนั้นเค้ายังไม่ได้รับการฝึกอีกด้วย เพียงแค่ศึกษาเองจากหนังสือเท่านั้น

เค้าสามารถปกปิดตัวตนที่แท้จริงจากปรมจารย์เจไดทั้งกาแล็กซี่ได้ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Mind-Clouding ซึ่งบดบังทั้งตัวตน และการมองเห็นอนาคตของอาจารย์ Yoda แต่การสัมผัสได้ถึงพลังของเค้าก็เคยผิดพลาดถึงสองครั้งด้วยกัน 

เมื่อตอนที่พบกับ Anakin ครั้งแรก เค้าไม่สามารถสัมผัสถึงพลังใดๆ ในตัวเด็กคนนี้ นั่นเป็นครั้งที่หนึ่ง และอีกครั้งคือการปรากฏตัวของ Luke บนยาน Tydirium ที่โขมยมาจากจักรวรรดิ ที่ดวงจันทร์ Endor ในภาค 6 ซึ่งมีเพียง Vader คนเดียวเท่านั้นที่สัมผัสได้

ในส่วนของ Legend นั้น  Sidious สามารถใช้พลังสร้างพายุอวกาศ ที่เรียกว่า Force Storm ที่กวาดชีวิตได้นับล้าน หรือแม้แต่แยก Space-Time Continumm (ความต่อเนื่องของห้วงเวลาอวกาศ) เพื่อสร้างหลุมดำได้อีกด้วย แม้จะยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมมันได้เท่าไหร่

เค้ายังสามารถจุดไฟได้จากความว่างเปล่า โดยการใช้พลังถูโมลิกุลเข้าด้วยกันให้เกิดความร้อนสูง และลุกติดไฟขึ้นมา ซึ่งเรียกว่าพลัง Pyrokinesis และยังถ่ายเทพลังชีวิต เปลี่ยนร่างไปสู่ร่างอื่นได้ เพื่อจะได้ย้ายร่างไปเรื่อยๆ ให้มีชีวิตอมตะ

นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เรารู้เกี่ยวกับชีวิตในวัยเด็กของ Sidious คุณคิดอย่างไรกับตัวละครนี้ คุณว่าการฝืนกฏของเค้ามีผลทำให้จักรวรรดิต้องล่มสลายบ้างหรือไม่ แล้วต้นกำเนิดของ Anakin เกี่ยวข้องกับ Plagueis บ้างหรือเปล่า พูดคุยกับเพื่อนๆ และ Me Hope ได้ใน Comment และอย่าลืมหากคุณพึ่งอ่านเรื่องราวจากเราเป็นครั้งแรก กดไลค์เพจและตั้งเตือนไว้ 

หากคุณพลาดเรื่องราวสนุกๆ ที่ผ่านมาแล้วล่ะก็ สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่เพจ Me Hope Shop ขอขอบพระคุณที่ติดตาม และขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน



ตอนต่อไป... 
 
Ackbar แม่ทัพที่เก่งที่สุดของพันธมิตรกบฎ (คลิก)

Hope Lore

ขาย-แลก มือสอง

เข้าสู่เว็บบอร์ด >>
ตะกร้า
( 0 )
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านME HOPE : Thai Star Wars Shop
ME HOPE : Thai Star Wars Shop
คำว่า Hope มาจากชื่อภาคของภาพยนตร์ Star Wars ภาคแรกที่ออกฉาย เป็นความหวังของเรา ที่จะมีร้านรวมสินค้า Star Wars ที่รวมเฉพาะสินค้า Star Wars จากทั่วโลกให้ได้ เมื่อสมัยเด็กๆ ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ผมก็เหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป ชอบดูหนัง แต่ไม่มีเรื่องไหนที่ทำให้จดจำ และอยากติดตาม เท่ากับ Star Wars หลังจากที่ได้ดูครั้งแรก ก็ชอบมานับจากนั้น ในยุคนั้น สินค้า Star Wars นับได้ว่าหาแทบไม่มี (ในความรู้สึกของผม) ตามห้างก็ราคาแพง อินเตอร์เน็ตก็ยังไม่รู้จัก ในฐานะเด็กน้อยคนนึง จึงไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ ของสะสมที่เกี่ยวกับ Star Wars ซักชิ้น ได้แต่มอง และฝันว่าซักวันจะได้เป็นเจ้าของโมเดลยาน หรือ ฟิกเกอร์ซักตัว เวลาผ่านไป 10 กว่าปี Star Wars กลับมาอีกครั้ง หลังจากภาค VII: The Force Awakens ออกฉาย ในปี 2015 ความคลั่ง Star Wars ในตัวก็กลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้ผมก็สามารถจะสะสม สินค้าเกี่ยวกับ Star Wars ได้ตามที่ใจต้องการ แต่เมื่อค้นดูในอินเตอร์เน็ต สินค้า Star Wars ก็อยู่แบบกระจัดกระจาย ร้านนู้นนิด ร้านนี้หน่อย จึงเกิดไอเดียที่จะรวบรวมสินค้า Star Wars ล้วนๆ ไว้สถานที่ใดซักแห่ง เพื่อให้แฟนๆ Star Wars ทุกคนได้ค้นหาของสะสมชิ้นโปรดได้อย่างสะดวกที่สุด ผมจึงเริ่มก่อตั้งร้านนี้ขึ้นนับจากตอนนั้น โดยหวังว่า Me Hope จะรวมสินค้า Star Wars ให้ได้มากที่สุด และจะรวบรวมทุกๆ อย่าง ที่เกี่ยวข้องกับ Star Wars ตั้งแต่สินค้าของสะสม ไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยว และข่าวสารเกี่ยวกับ Star Wars เมื่อนึกถึง Star Wars ก็ให้นึกถึง Me Hope...
เบอร์โทร : 0909560942
อีเมล : mehopeshop@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
หรือค้นหาอย่างละเอียด
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด

{{pdata.name}}
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม