


















Wilhuff Tarkin ชายคนนี้เป็นใคร แล้วทำไมถึงสำคัญนัก?
Wilhuff Tarkin หรือ Grand Moff Tarkin คือหนึ่งในคนสนิท และคนที่ Palpatine ไว้ใจมากที่สุด เค้าเป็นผู้บัญชาการที่ชาญฉลาด มีไหวพริบ ช่างสังเกตุ และเป็นนักล่าที่ยอดเยี่ยมที่สุดของจักรวรรดิ
จากเดิม ตำแหน่ง Moff (ผู้บัญชาการภาคส่วนในกองทัพของจักรวรรดิ) มีจำนวนคงที่ที่ 20 ตำแหน่ง ซึ่งมีสีเครื่องบอกยศเป็นสัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยม 10 ชิ้นที่หน้าอกด้านซ้าย ประกอบด้วย สีฟ้า 5 ชิ้น สีแดง 3 ชิ้น และ สีทอง 2 ชิ้น
แต่จากความสามารถและความภักดีของเค้า Palpatine จึงได้เพิ่มตำแหน่ง Grand Moff ขึ้นมาโดยเฉพาะให้กับ Tarkin ซึ่งสูงกว่าตำแหน่ง Moff เพื่อเป็นการให้รางวัล ทำให้ Tarkin เป็น Grand Moff คนแรกของจักรวรรดิ
ซึ่งเมื่อ Tarkin ได้ขึ้นเป็น Grand Moff ทำให้เค้าควบคุมทุกภาคส่วนของกาแล็กซี่ และเครื่องบอกยศก็เพิ่มขึ้นเป็น 12 ชิ้น ประกอบด้วยสีฟ้า 6 ชิ้น สีแดง 3 ชิ้น และ สีทอง 3 ชิ้น
Tarkin เป็นที่รู้จักดีในความโหดและไร้ความปราณี เค้าสามารถฆ่าได้นับล้านชีวิตโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ซึ่งเปรียบเสมือนอนุสรณ์แห่งความกลัวซึ่ง Palpatine ใช้บัญชาการทหาร และดูแลความมสงบสุขให้กับกาแล็กซี่
แต่ว่าหลายคนอาจไม่รู้จักชายคนนี้ เค้าคือใคร แล้วเพราะอะไร Tarkin ถึงได้ขึ้นมามีอำนาจมากขนาดนี้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Grand Moff Wilhuff Tarkin กัน
Tarkin ไม่ได้เกิดมาเป็นคนโหดร้ายแต่กำเนิด แต่ว่าเค้าถูกหล่อหลอมขึ้นโดยครอบครัวของเค้าเอง เพื่อให้แข็งแกร่งพอจะปกครองดาว Eriadu ของวงศ์ตระกูลต่อได้
ดาว Eriadu เป็นดาวที่นับว่าอันตรายที่สุดในกาแล็กซี่ เนื่องจากมันเติมไปด้วยสัตว์นักล่าที่ดุร้าย และสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว ซึ่งเป็นสัตว์ท้องถิ่นของที่นี่ ตระกูล Tarkin ได้เข้ามาตั้งรกราก และปกครองดาวดวงนี้เมื่อกว่าพันปีก่อน นับดูแล้วก็หลายชั่วอายุคน
ครอบครัวที่มั่งคั่งของ Tarkin ได้สอนบทเรียนการเอาชีวิตรอดและการปกครองต่างๆ ให้กับเค้ามากมาย จากรุ่นสู่รุ่น คืนนึงในมื้ออาหารเย็นอันหรูหรา พ่อของเค้า สั่งให้ทหารยึดจานข้าวของ Tarkin ไปเพื่อสอนว่า มันง่ายแค่ไหนที่จะสูญเสียความสุขสบายไป ตอนนั้นเค้าอายุเพียง 9 ขวบ
หรือการออกไปตามธรรมเนียมของตระกูล กับลุง Jova Tarkin ที่ Carrion Plateau เขตอนุรักษ์ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์นักล่าท้องถิ่นที่ดุร้าย เพื่อฝึกทักษะการเอาชีวิตรอดตั้งแต่อายุ 11 เพื่อฝึกการล่า และยังโดนบังคับให้ฉีกซากสดๆด้วยมือเปล่าเพื่อประทังชีวิตอีกด้วย
การออกล่าแต่ละครั้ง ใช้เวลาหลายเดือน และ Tarkin ต้องกลับออกไปอีกหลายครั้ง จนกระทั่งอายุ 16 ปี เค้าก็ผ่านการทดสอบ ด้วยการเอาชนะฝูงของนักล่าด้วยสติปัญญาของเค้าเอง
บทเรียนสำคัญที่เค้าได้รับจากประเพณีนี้ก็คือ การจะควบคุมสัตว์ดุร้ายพวกนี้ได้ ต้องทำให้มันรู้ว่าใครเป็นผู้ปกครอง เค้าต้องลงโทษพวกมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าพวกมันจะเข้าใจว่าต้องยอมจำนนเพื่อการอยู่รอด หากไม่ยอมก็ต้องถูกกำจัด ซึ่งบางครั้ง การล้างบางซักฝูง ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อเป็นตัวอย่างให้พวกที่เหลือ
หลังผ่านการทดสอบที่เขตอนุรักษ์เพียง 6 เดือน ครอบครัวของเค้าก็ส่ง Tarkin ไปรับการฝึกเป็นนักบิน และการทำสงครามในอวกาศต่อ โดยจ้างผู้เชี่ยวชาญจากหลายแขนงมาฝึกสอนโดยเฉพาะ
ศัตรูหลักของ Tarkin ก็คือพวกโจรสลัด ที่คอยมาปล้น ฆ่า และจับคนของเค้าไปขายเป็นทาส ซึ่ง Tarkin ก็โกรธแค้นและคิดเสมอว่า จะไม่ยอมให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นกับครอบครัวของตน และซักวันจะต้องกำจัดโจรพวกนี้ให้หมดให้ได้
หลังจากจบการฝึก Tarkin ก็เริ่มสร้างชื่อเสียงของเค้าครั้งแรก ตอนที่เข้าร่วมกองทัพรักษาความปลอดภัยเขตแดนอวกาศ ด้วยการจับกลุ่มโจรสลัดชื่อว่า Q'anah's Marauders โดยมีหัวหน้าเป็นโจรสลัดหญิงที่คุมแก๊งค์ต่อจากสามีที่เสียชีวิตของเธอ
แกีงค์ของ Q'anah ปล้นมาแล้วหลายครั้ง และรอดการจับกุมไปได้ทุกครั้ง แถมยังมีพันธมิตรโจรสลัดภายใต้การดูแลอีกมากมาย แต่ด้วยความที่ Tarkin ถูกฝึกมาอย่างดี บวกกับความฉลาดหลักแหลม และช่างสังเกตุของเค้า Tarkin เฝ้าติดตามพวกมันอย่างหมกมุ่น
ศึกษารูปแบบการปล้นที่ซับซ้อนเป็นเวลาหลายเดือน และใช้ประสบการณ์การล่านักล่าจากดาวบ้านเกิด ทำให้สุดท้ายเค้าวางแผนจับตัว Q'anah หัวหน้ากลุ่มโจรสลัด และลิ่วล้อได้หลายคน ซึ่งพวกลูกกะจ๊อกของ Q'anah ก็ล้อเลียน Tarkin ว่าเป็นเด็กอ่อนหัด และจะไม่มีคุกไหนที่จะขังเธอไว้ได้นาน
แต่ Tarkin ไม่ได้มีแผนจะจับโจรพวกนี้เข้าคุก แต่จะประหารด้วยวิธีที่เลือดเย็นที่สุด เค้าจับพวกโจรสลัดรวมทั้งหัวหน้าแก๊งค์ Q'anah ยัดกระสวยที่ตั้งโปรแกรมให้วิ่งเข้าใส่ดวงอาทิตย์อย่างช้าๆ และถ่ายทอดสดภาพภายในยานด้วยกล้อง Hologram ให้โจรคนอื่นดู
ไม่ใช่แค่เพื่อจะขู่ แต่เพื่อจะล่อให้พันธมิตรโจรที่เหลือเข้ามาช่วย แล้วก็ดักยิงทิ้ง Tarkin จัดการแก๊งค์โจรสลัดที่สาธารณรัฐต้องการตัวมากที่สุดได้ ตอนนั้นเค้าอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น และยังออกแบบยานรบรุ่นใหม่ให้กองทัพเมื่อตอนที่อายุ 19 ปีอีกด้วย
ด้วยผลงานและชื่อเสียงที่โด่งดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไปเตะตาวุฒิสมาชิกแห่งดาว Naboo เข้า เค้าคนนั้นก็คือ Palpatine นั่นเอง Palpatine ได้ชื่นชมและชวนให้ Tarkin เข้าสู่การเมือง แต่ในตอนนั้น Tarkin ยังไม่สนใจการเมือง จึงตอบปฏิเสธไป
ในช่วงนั้นสาธารณรัฐยังไม่มีกองทัพประจำการเป็นตัวตน โรงเรียนเดียวที่เป็นศูนย์ฝึกทหารเพื่อรักษาความสงบ ซึ่งดูแลโดยเหล่าเจได คือ Sullust Sector Spacefarers Academy Tarkin เรียนอยู่ที่นั่น แต่เค้ามักจะทะเลาะกับเด็กคนอื่นอยู่เสมอ
หลังจากเห็นความขัดแย้งมากมายในสาธารณรัฐ Tarkin จึงตัดสินใจเข้าร่วมกับ Palpatine และด้วยความช่วยเหลือจาก Palpatine ทำให้ Tarkin ได้เป็นผู้ว่าการแห่งดาว Eriadu (หรือเรียกอีกอย่างว่า ข้าหลวง) นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นสู่เส้นทางสายอำนาจของ Tarkin
ครั้งนึง Count Dooku เคยมาโน้มน้าวให้ Tarkin เค้าร่วมกับฝ่ายแบ่งแยก แต่ Tarkin ปฏิเสธเพราะความภักดีที่มีต่อ Palpatine แต่ที่จริงแล้ว Palpatine เป็นคนส่ง Dooku ไปเพื่อทดสอบความซื่อสัตย์ นั่นทำให้ Palpatine ไว้ใจ Tarkin มากขึ้นไปอีก
การพบกันครั้งแรกของ Tarkin กับ Vader นั้นไม่สวยนัก Vader เข้ามาพบ Palpatine และใช้ Force ผลัก Emperor's Royal Guard สองคนลอยไปชนกระจกแตก และสลบไป ซึ่ง Tarkin ก็อยู่ในห้องนั้นด้วย แต่ถึงแม้จะสับสนและกลัว Tarkin ก็ยังพยายามปกป้องนายของเค้าจาก Vader (Vader สภาพเยินมากจากภารกิจฆ่าเจไดเพื่อยึดดาบเล่มแรกมาเปลี่ยนสีคริสตัลสำเร็จ)
ในช่วงเริ่มต้นของยุคจักรวรรดินั้น มีการพยายามฆ่า Vader โดยนายทหารชั้นสูงถึง 2 ครั้ง เพราะอิจฉาและต้องการจะโค่น
อำนาจที่ไร้กฎเกณฑ์ของ Vader ซึ่งเมื่อ Vader รู้ทัน (จากการนั่งสมาธิ) ก็ทำให้เค้าโกรธมาก และขอ Palpatine เพื่อแสดงพลังที่แท้จริง ต่อหน้านายทหารชั้นสูงทั้งหมด ซึ่ง Palpatine ก็ได้ขอชีวิตของ Tarkin ไว้ และ Vader ก็ตอบตกลงที่จะไม่ยุ่งกับเค้า Tarkin
ในพิธีแนะนำตัว Lord Vader อย่างเป็นทางการ Vader ประกาศว่ามีการพยายามฆ่าตนแล้วถึง 2 ครั้งจากทหารของจักรวรรดิ ซึ่งล้มเหลวทั้ง 2 ครั้ง และได้สุ่มเรียกทหารชั้นสูงออกมา 5 นาย แล้วใช้พลังบีบคอทหารทั้ง 5 คนนั้น จนเท้าลอยจากพื้น และขาดใจตายกลางอากาศ
ทั้งห้องเงียบสงัด และเต็มไปด้วยความสับสน แต่สิ่งนึงที่แน่ชัดที่สุดก็คือ จะไม่มีใครกล้าแตะต้อง Vader อีกแน่นอน และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ Palpatine ออกตัวปกป้อง Tarkin เพื่อแสดงให้เห็นว่าเค้าสำคัญกับจักรวรรดิมากแค่ไหน
หลังจากนั้นไม่นาน จากหนี้บุญคุณที่ Tarkin ขอให้ Vader ทิ้งภารกิจฆ่าเจไดที่ Palpatine สั่ง ให้ไปช่วยตนจับพระราชาแห่ง Mon Cala และความสนใจในความสามารถของ Tarkin ทำให้ Vader ทวงหนี้บุญคุณด้วยการขอให้ Tarkin ให้ไล่ล่าตน และฆ่าได้หากจำเป็น ซึ่ง Tarkin ก็ตกลงจะทำตามที่ขอ แม้จะไม่อยากทำก็ตาม
การไล่ล่าเกิดขึ้นที่ดาว Chandar's Folly Tarkin รวบรวมนักล่าที่เก่งที่สุดในกาแล็กซี่ 19 คน เพื่อทำภารกิจนี้ ระหว่างการไล่ล่า Tarkin เฝ้าสังเกตุวิธีการ และจุดอ่อนของ Vader เพื่อวางแผนจู่โจม Tarkin พบว่าการล่า Vader นั้นไม่ยากนักเพราะเสียงหายใจที่ดังตลอดเวลา และรอยเท้าจากชุดเกราะที่หนักอึ้งของเค้า
การล่าเริ่มจากการวางแผนและเรียนรู้เหยื่อของเค้า Tarkin แลกชีวิตนักล่าทีละคนไปกับการได้เรียนรู้จุดอ่อนต่างๆ และการยึด Lightsaber ของ Vader มาได้ แต่แม้ว่าจะเหลือมือเปล่า Vader ก็ยังคงไร้เทียมทานอยู่ดี และ Tarkin ก็ได้รู้ว่า กลยุทธ์ที่บอกว่าเหยื่อที่โมโหนั้นจับง่ายกว่า ดูจะใช้ไม่ได้สำหรับ Vader
ผ่านไป 9 วัน Tarkin เหลือนักล่าเพียง 7 คน ส่วนเวเดอร์ก็ถูกยึด Lightsaber ไปได้
และในที่สุด ณ ช่วงเวลาสุดท้ายของการไล่ล่า Vader กลายเป็นฝ่ายล่าและซุ่มโจมตี Tarkin ได้สำเร็จ จากการกลั้นหายใจ และปิดมันไว้ชั่วคราว
แล้วโผล่มายึด Lightsaber กลับไปได้
Vader ไล่เชือดนักล่าทีเหลือจนหมดอย่างรวดเหลือ เหลือแต่ Tarkin ซึ่งกำลังวิ่งหนี จุดพีคอยู่ตรงนี้ ทันทีที่ Vader ตาม Tarkin ทัน Tarkin ยอมจำนน ทิ้งปืน คุกเข่าลง และทันใดนั้น ในขณะที่ Vader ยืนต่อหน้า Tarkin ฟ้าก็ผ่าลงใส่ Vader อย่างจัง
ทั้งหมดเป็นแผนของ Tarkin เค้าตั้งใจตั้งแคมป์รอ Vader ติดกับบริเวณ Stormlands พื้นที่เขตที่มีฟ้าผ่าอยู่ตลอดเวลา
และเมื่อ Vader ผู้ที่ไม่ทันเกมส์ของ Tarkin ซึ่งร่างกายส่วนใหญ่เป็นโลหะ บวกกับยืนอยู่ตำแหน่งสูงกว่า ทำให้ฟ้าผ่าเข้าใส่ Vader เต็มๆ
Vader ล้มลงนอนแน่นิ่งไป และควันได้ลอยขึ้นจากร่างของเค้า
Tarkin ทำสำเร็จ ลุกขึ้นยืนและเรียกยานเพื่อมารับทั้งคู่กลับ พร้อมบอกกับ Vader ว่า "ไม่ว่าท่านต้องการเรียนรู้อะไรจากเรื่องบ้าๆ นี้ ข้าหวังว่าท่านได้เรียนรู้แล้ว และมันจะคุ้มกับสิ่งที่ท่านยอมจ่าย" ขณะที่ยานกำลังลงจอดและฟ้าก็ผ่าที่ยานเรื่อยๆ Vader ยกมือขึ้น และใช้พลังบีบคอ Tarkin
Tarkin ล้มลงและคลานกับพื้น เกือบจะสิ้นลมหายใจ
และในที่สุด Vader ก็ปล่อยมือ ณ จุดนั้น Tarkin ได้สัมผัสถึง
อำนาจอันสูงสุดของพลัง Force พลังที่ไม่อาจจะประเมิณได้ และเข้าใจว่า แท้จริงแล้ว Vader แข็งแกร่งมากแค่ไหน ที่สำคัญ Tarkin ไม่ได้ชนะ และทั้งคู่ ก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน นับจากนั้น
Tarkin เป็นคนเดียวที่รู้ว่า Vader คือ Anakin ที่เคยพบกันในสงครามโคลน จากการสังเกตุพฤติกรรม การพูดโต้ตอบกับทหาร และท่าทางการต่อสู้ นั่นแสดงให้เห็นว่า Tarkin นั้นฉลาด และช่างสังเกตุมากแค่ไหน แต่ Tarkin นั้นมีเกียรติ ซึ่งก็เก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเอง ไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้
หลังการตายของ Tarkin จากการระเบิดของ Death Star I พร้อมกับอีก 2 ล้านชีวิต ทำให้มีช่องว่างเกิดขึ้นในตำแหน่งของ Tarkin
ซึ่ง Cassio Tagge ก็ได้เข้ามาเสียบ และยังพูดเหยียดหยาม Tarkin ว่า สถานีอวกาศ Death Star เป็นความโง่เขลาของ Wilhuff Tarkin
เค้าอ้างว่าจักรวรรดิน่าจะมียานนำทัพอีกนับหมื่นลำแล้ว ถ้าไม่สร้างสถานีอวกาศที่สิ้นเปลืองนี้ และยังกล่าวหา Vader ว่าไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีของพวกกบฏได้อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม พวกปฐมภาคีกลับยกย่อง Tarkin อย่างสมเกียรติ และในฐานะฮีโร่ในช่วงสงครามกาแล็กติก ถึงกับใส่ชื่อ Tarkin ลงบนเครื่องบอกยศที่แขน และตั้งชื่อโรงเก็บยาน TIE บน Starkiller Base ว่า Tarkin's Revenge (การแก้แค้นของ Tarkin)
ผลงานของ Tarkin ยังมีอีกเยอะมากจนสามารถทำเป็นหนังภาคแยกได้สบาย เพื่อนๆ คิดอย่างไรกับตัวละครนี้ และเรื่องราวของเค้า คิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นหนังภาคแยกของ Tarkin หรือไม่ แล้วจะเป็นอย่างไรถ้า Tarkin ตัดสินใจอพยพออกจาก Death Star ในวันนั้น และอยู่ปกครองจักรวรรดิต่อ
หวังว่าคุณจะได้รับเพลิดเพลินไปกับบทความนี้
หากคุณพึ่งเคยอ่านเรื่องราวจาก Me Hope ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เรามีเรื่องราวเบื้องลึกเกี่ยวกับ Star Wars แบบนี้
มาให้คุณเป็นประจำทุกสัปดาห์
กดติดตามเพจและตั้งเตือนไว้ แล้วพบกันตอนต่อไป
และขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน
ตอนต่อไป...